ข้อสอบ SAT Evidence-Based Reading and Writing นั้นจะมีการทดสอบกฎไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (grammar rules) ซึ่งต้องทำสามสิ่งหลัก ๆ คือ การอ่าน ระบุจุดที่ผิดพลาด และเลือกแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎ โดยเทคนิคสำคัญ ที่ช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบ SAT ภาษาอังกฤษ ให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง และรวดเร็วขึ้น ก็คือการรู้จักและจับทาง Grammar ที่มักเจอบ่อยในข้อสอบ SAT ได้นั้นเอง
วันนี้ พี่ W Education ได้คัด 10 SAT Grammar Rules ที่ถ้าฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ แล้วละก็ รับรองว่าไม่มีพลาดในห้องสอบแน่นอน
1. Parallel Structure
ต้องให้ความสนใจกับการใช้ tense ของ verb โดยตัวเลือกที่ถูกต้องเกือบทั้งหมดจะเป็นประโยคที่มีโครงสร้างที่เหมือนกันตลอดทั้งประโยค
ตัวอย่าง:
Incorrect: She likes to dance, swimming, and to sing.
Correct: She likes to dance, swim, and sing.
2. Punctuation
ข้อสอบหลายข้อจะให้เลือกใช้เครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ ต่อไปนี้
1.ใช้ comma เพื่อแยกสิ่งของในชุดออกจากกัน
ตัวอย่าง:
Mary enjoys hiking, swimming, and biking on weekends.
2.ใช้ semicolon เพื่อเชื่อมประโยคสองประโยคที่เป็น independent clause
ตัวอย่าง:
John loves reading books; he spends most of his time at the library.
3.ใช้ dash เพื่อเน้นเสียงหรือความสำคัญ)
ตัวอย่าง:
The car - which is blue - belongs to my brother.
4.ใช้ colon เพื่อแสดงรายการหรือเน้นข้อความและต้องมาต่อหลัง independent clause
ตัวอย่าง:
I have many hobbies: hiking, reading, and playing sports.
3. Who VS. Whom
"Who" เป็นตัวแทนสรรพนามประธานของคำกริยาใน adjective clause ในขณะที่ "Whom" เป็นตัวแทนสรรพนามที่เป็นกรรมของประโยค
ตัวอย่าง:
Sheila, who just moved to the neighborhood, is hosting a party tonight.(ชีล่า คนที่เพิ่งย้ายเข้ามาในชุมชน จะจัดงานปาร์ตี้คืนนี้)
Whom should I ask for help with this project? (ฉันควรถามใครเพื่อขอความช่วยเหลือในโครงการนี้?)
4. Passive VS. Active
Passive voice มักจะทำให้ประโยคยืดยาว และไม่เป็นที่นิยมเท่าไร โดยวิธีแยกแยะประโยค Active voice มักมีรูปแบบ subject, verb, object ในขณะที่ Passive voice มักจะมีรูปแบบ object, verb, subject
ตัวอย่าง:
Active voice: Mary has bought SAT prep books and is using them to study.(แมรี่ได้ซื้อหนังสือเตรียมสอบ SAT และกำลังใช้เพื่อเรียน)
Passive voice: The SAT prep books have been bought by Mary and are being used by her to study.(หนังสือเตรียมสอบ SAT ได้ถูกซื้อโดยแมรี่และกำลังถูกใช้เพื่อเรียน)
5. Comparative Clauses
เป็นคำถามที่ง่ายที่จะพลาดเนื่องจากตัวเลือกคำตอบส่วนใหญ่ดูถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นต้องสังเกตว่าสิ่งที่ถูกเปรียบเทียบกันในประโยคคือสิ่งไหน
ตัวอย่าง:
This book is more interesting than that one. (หนังสือเล่มนี้น่าสนุกกว่าเล่มนั่น)
6. Subject-Verb Agreement
กฎนี้อาจดูง่าย แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน การตอบคำถามเหล่านี้ได้ต้องระบุประธานที่ถูกต้องของประโยคเพื่อเลือกรูปกริยาที่ถูกต้อง
ตัวอย่าง:
Neither the teacher nor the students (knows/know) the answer. (Answer: know)
ไม่มีครูหรือนักเรียนไหนรู้คำตอบ
7. Redundant Adjectives
คำถามจะเน้นทดสอบความสามารถในการรับรู้ความซ้ำซ้อนของ Adjectives ในประโยค
ตัวอย่าง:
The bright sun shone down on the green grass. (redundant adjectives: bright และ green)
8. Word Choice
ข้อสอบประเภทนี้จะให้เลือกคำที่เหมาะสมกับบริบทของประโยคที่สุด จากลิสต์ของคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน
ตัวอย่าง:
The author's use of a sophisticated vocabulary was intended to add (complexity, simplicity, confusion, clarity) to the novel.(Answer: complexity)
9. Transitions
คำถามเกี่ยวกับการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประโยค (Transitions) ให้ดูประโยคก่อนหน้าเพื่อประเมินบริบทและเลือกคำเชื่อม
ตัวอย่าง:
John enjoys playing football.(Nevertheless, Therefore, Additionally, Nonetheless), he also loves watching matches on TV. (Answer: Additionally)
10. Idioms
การตอบคำถามชนิดนี้ต้องรู้จักสำนวนภาษาอังกฤษผ่านตาบ่อยๆ จะทำให้ง่ายขึ้น ซึ่งตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องมักจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อย่างเช่น ใช้คำสำนวนไม่ถูกต้องหรือเรียงคำผิด
ตัวอย่าง:
She was over the moon when she found out she got accepted into Harvard.
(สำนวน over the moon = มีความสุขและร่าเริงมาก)
.
กดติดตาม W Education Group เพื่อไม่พลาดทุกข่าวสาร แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ และคอร์สเรียนล่าสุด ได้ทาง
Facebook – @weducationgroup
Instagram – @weducationgroup
Website – www.weducationgroup.com
.
.
#สอบเข้ามหาลัย #เรียนต่ออินเตอร์
Comments